ฝาง
(Caesalpinia sappan Linn.)
ฝางเป็นไม้พุ่มใหญ่ หรือไม้ต้นขนาดเล็ก ซึ่งผลัดใบในช่วงเวลาสั้นๆ
และแตกใบใหม่ได้อย่างรวดเร็ว มีหนามแข็งโค้งทั่วไปทั้งต้น
ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกคล้ายหางนกยูงไทย ดอกสีเหลือง ๕ กลีบ ออกดอกเป็นช่อ
ที่ยอดและซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ฝักกว้างสั้นรูปขอบขนานปลายตัด และมีติ่งจะงอย
แหลมอยู่มุมหนึ่งขนาดยาว ๗-๑๒ ซม. เมื่อแก่ ฝักจะมีสีน้ำตาลแกมแดง
พบขึ้นเป็นกลุ่มตามภูเขาหินปูน ที่แห้งแล้ง และชายป่าดิบแล้งทั่วๆ ไป
ฝางออกดอกระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน หลังจากนั้น ประมาณ ๓ เดือน
ฝักก็จะแก่ ชื่ออื่นๆ ที่ใช้เรียก ได้แก่ ฝางส้ม ฝางเสน และหนามโค้ง
การขยายพันธุ์ทำได้ ทั้งเพาะเมล็ด และตอนกิ่ง
คนไทยรู้จักใช้แก่น และเนื้อไม้ฝาง ซึ่งมีสีเหลืองอมส้ม ย้อมผ้าฝ้าย และผ้าไหม ให้เป็นสีแดง อย่างสวยงามมาแต่โบราณ
มีบันทึกว่า
สมัยอยุธยา ซึ่งไทยมีการติดต่อเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศจีน
ได้มีการส่งไม้ฝางไปเป็นของขวัญ ถวายพระเจ้ากรุงจีน
และขณะเดียวกันก็ส่งเป็นสินค้าออกไปขายทั้งในญี่ปุ่นและจีนด้วย
นับว่าฝางเป็นของที่มีค่ามากอย่างหนึ่งตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน
มีการส่งเสริมการใช้สีย้อมผ้าที่ได้ จากธรรมชาติ
ฝางจึงได้รับความสนใจนำมาปลูก และใช้ย้อมผ้ากันมากขึ้น
แก่นไม้ฝางยังเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทยอีกประการหนึ่ง
คือ การนำมาทำน้ำยาอุทัย สำหรับผสมน้ำเย็นให้มีสีสวย
ดื่มแก้กระหายให้ความชื่นใจ เป็นที่นิยมของคนไทย สีชมพูเข้มของน้ำยาอุทัย
เป็นสีที่สดใสมาก แต่ปลอดภัยต่อการบริโภค เพราะสลายตัวง่าย
ไม่สะสมในร่างกาย ตำรายาไทยใช้แก่นฝาง เป็นยาบำรุงโลหิต ขับประจำเดือน
ใช้เป็นยาภายนอกรักษาน้ำกัดเท้าและแก้คุดทะราด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น